
ช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคมของทุกปี ถือเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวหนึ่งของจังหวัดระนอง ที่มีนักท่องเที่ยวมุ่งหน้าเดินทางไปล่องแพชมความมหัศจรรย์ และความงดงามของดอกพลับพลึงธาร หรือพลับพลึงน้ำ หรือช้องนาง หรือหอมน้ำ ซึ่งเป็นไม้น้ำที่มีดอกสีขาว กลิ่นหอม และหาดูยาก ปัจจุบันพบเพียงที่คลองนาคา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่มีพื้นที่อยู่เขต อ.สุขสำราญ จ.ระนอง แต่ปีนี้ต้นพลับพลึงธารลดลงมาก อีกทั้งระบบนิเวศริมคลองนาคาพังทลาย ส่งผลให้ความสวยงามเป็นธรรมชาติของคลองนาคา และพลับพลึงธาร เปลี่ยนไปไม่สร้างความประทับใจได้เหมือนเดิมอีกแล้ว ชำนิ อุ่นขาว ประธานชมรมเพลินไพรศรีนาคา ผู้ดำเนินการล่องแพแลพลับพลึงธาร ชี้แจงว่า คาดว่าปีนี้คงต้องงดกิจกรรมการท่องเที่ยวล่องแพเชิงนิเวศริมคลองนาคา เนื่องจากจำนวนต้นพลับพลึงธารลดลงอย่างมาก ประกอบกับระบบนิเวศริมคลองนาคาที่พังทลาย เกรงว่านักท่องเที่ยวจะไม่ได้รับความประทับใจ “กลุ่มเพลินไพรศรีนาคา จัดกิจกรรมล่องแพแลพลับพลึงธารมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2549 จนเป็นที่ประทับใจ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งมีการจัดตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในเวลาต่อมา เพื่อดำเนินกิจกรรมล่องแพอย่างเต็มรูปแบบ แต่ปัจจุบันประสบปัญหาปริมาณต้นพลับพลึงธารลดลง และตลิ่งริมคลองรวมถึงระบบนิเวศที่สวยงามของคลองนาคาพังทลายลงไปทุกปี เป็นผล กระทบมาจากโครงการขุดลอกคลองของหน่วยงานภาครัฐทั้งระดับจังหวัด ถึงระดับท้องถิ่นที่ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา ซึ่งหน่วยงานที่ดำเนินโครงการมักอ้างว่าไม่มีผลกระทบ “แต่เราพบว่าการขุดลอกในช่วงล่างของคลอง ซึ่งคลองนาคามีลักษณะเป็นหินปนทราย การขุดลอกที่จะให้มีการเคลื่อนตัวปรับสภาพ ยิ่งขุดมาก ลำคลองก็ยิ่งเสียหายมาก ทำให้ตลิ่งริมคลองพังทลาย รวมถึงสะพานต่างๆ ที่ใช้งานกันมายาวนานเป็นสิบปีได้รับผลกระทบไปด้วย ที่สำคัญต้นพลับพลึงธารที่ฝังหัวอยู่ใต้ท้องคลองจะหลุดลอยไปตามกระแสน้ำอย่างมาก ปีนี้ดอกพลับพลึงธารจึงลดลง และกลุ่มคงต้องหยุดการให้บริการการท่องเที่ยวล่องแพแลพลับพลึงธาร...
อ่านต่อ »